เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ เต็มเรื่อง เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียน ม.ปลาย ทั้ง 4 คน ได้พบกับเกมคอนโซลเก่า ๆ ที่ลากให้พวกเขาหลุดเข้าไปในเกมจนต้องกลายเป็นผู้ใหญ่เหมือนในอวาร์ต้าที่เคยเลือกไว้ พวกเขาจึงค้นพบกับเกม ๆ นี้ ไม่ใช่แค่เพียงเล่น แต่พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดกลับออกมาให้ได้แน่นอนว่านี่คือหนังที่ไม่เชิงรีบูตและก็เป็นภาคต่อจากหนังต้นฉบับในปี 1995 ที่นำกลับมาสร้างในรูปแบบใหม่ที่เจ๋งขึ้นกว่าเดิม
ด้วยฝีมือการกำกับของ “เจค แคสแดน” (จาก Bad Teacher) โดยหนังยังคงคอนเซ็ปต์และเสน่ห์รูปแบบการเดิมหมากเล่นเกมแบบที่คุ้นเคย เพิ่มเติมด้วยจินตนาการและจังหวะโบ๊ะบ๊ะของหนังที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวส่วนหนึ่งต้องขอบคุณองค์ประกอบของทีมนักแสดงของเรื่องที่มีเคมีเข้ากันได้อย่างอัศจรรย์
เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ เต็มเรื่อง พากย์ไทย
ไม่ว่าจะเป็น “เดอะร็อก”, “เควิน ฮาร์ต”, “แจ็ค แบล็ก” หรือ “คาเร กิลแลน” พวกเขาทั้ง 4 ได้กลายเป็นทีมนักแสดงในหนังที่โดดเด่นอีกเรื่องในรอบทศวรรษเลยทีเดียวการกลับมาของ Jumanji: Welcome to the Jungle ถือว่าโดนใจนักวิจารณ์และผู้ชมไม่น้อย เห็นได้จากคะแนนเฉลี่ยบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่มีเสียงชื่นชมถึง 76% และได้เกรด A- จากผู้ชมในการสำรวจของ CinemaScore หนังยังสามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปได้เกือบพันล้านเหรียญ และนั่นก็ได้สร้างความมั่นใจให้กลายออกมาเป็นแฟรนไชส์ให้ชุดใหม่
Spider-Man: Across the Spider-Verseดูเหมือนว่าหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่และเป็นตัวแทนของหนังมาร์เวลในศักราชนี้ไปเสียแล้ว และนี่คือการกลับมาสานต่อในภาตต่อแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม พร้อมทั้งคว้าออสการ์มาครองได้แล้วใน “Spider-Man: Across the Spider-Verse สไปเดอร์แมน: ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม” ที่กลับมาคราวนี้ บอกได้เลยว่า…มาเพื่อยกมาตรฐานของตัวเองขึ้นไปอีกสำหรับในหนัง Spider-Man: Across the Spider-Verse
ยังคงโฟกัสที่ตัวละคร อย่าง ไมล์ส โมราเลส เช่นเดิม กับเรื่องราวบทใหม่ของการผจญภัยของเพื่อนบ้านที่แสนดีแห่งบรู๊คลิน ไปสู่มัลติเวิร์สร่วมกับ เกว็น สเตซี่ ของผองเพื่อนมนุษย์แมงมุมเพื่อเผชิญหน้ากับวายร้ายที่ทรงพลังยิ่งกว่าที่พวกเขาเคยเจอ และเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการเอาไว้ในขณะที่หนังมาร์เวลฉบับคนแสดงต้องเผชิญหน้ากับแพสชั่นที่ยิ่งสร้างยิ่งท้อใจคนดูเรื่อย ๆ แต่ฉบับแอนิเมชั่นกลายเป็นฝั่งที่ค่อย ๆ รุ่งโรจน์และรุ่งเรืองขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
และการกลับมาของ Spider-Man: Across the Spider-Verse เรื่องนี้ก็ได้เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ เต็มเรื่อง นี่คือหนังฮีโร่แอนิเมชั่นที่ตอบโจทย์และมอบทุก ๆ อรรถรสให้กับผู้ชมอย่างเต็มอิ่ม เหมือนกับหนังมาร์เวลยุคก่อนเมื่อทศวรรษที่แล้วแบบนั้นเลยต้องบอกว่านี่คือการผนึกกำลังที่สุดเจ๋งของดรีมทีมอย่างแท้จริง เพราะ 3 ผู้กำกับ “เคมป์ พาวเวอร์ส”, “วาคิม ดอส ซานโตส” และ “จัสติน ทอมป์สัน” ได้สร้างงานมาสเตอร์พีชอีกชิ้นของพวกเขาออกมาได้อีกครั้ง
การสร้างและการทำงานของพวกเขาค่อนข้างลงตัวเป็นอย่างดี รู้จักลีลาและจังหวะที่ดีงาม ร้อยเรียงออกมาเป็นหนังที่ดีทุกจังหวะตลอดทั้งเรื่องจริง ๆและยังต้องปรบมือให้กับอีกหนึ่งดรีมทีมด้านบทภาพยนตร์ “ฟิล ลอร์ด”, “คริส มิลเลอร์” และ “เดวิด คัลลาแฮม” ได้สร้างบทหนังอันยอดเยี่ยมออกมาได้น่าประทับใจอีกครั้ง บทหนัง Spider-Man: Across the Spider-Verse แทบจะไร้ที่ติเสียด้วยซ้ำ เพราะเต็มไปด้วยลีลาและมิติที่ดีงาม
ขับเสน่ห์และรู้จักทุกท่วงท่าของทุกตัวละคร ทุกคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้ต่างมีความสำคัญและสามารถเกลี่ยกระจายบทได้คล่องตัว ที่ประทับใจสุด ๆ คงจะเป็นการใส่ความเป็นมนุษย์เข้ามาในบทอย่างมีนัยสำคัญ ที่เพิ่มความกลมกล่อมให้หนังได้ยิ่งขึ้นด้วยต้องสารภาพตรง ๆ ว่าแอบประหลาดใจนิดหน่อย ตอนที่รู้ว่าหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที เทียบเท่าบรรดาหนังมาร์เวลปกติทั่วไปสักเรื่องเลย ก็คิดอยู่ว่าหนังจะมีอะไรให้เล่าเยอะแยะขนาดนั้น
เพราะโดยมาตรฐานแล้วหนังแนวนี้มักจะสร้างให้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่เมื่อมาสัมผัสด้วยดาตัวเองจึงทราบแล้วว่า 140 นาทีของหนังก็ยังไม่เพียงพอจริง ๆSpider-Man: Across the Spider-Verse ยังคงเอกลักษณ์ในงานดีไซน์และลายเส้นการ์ตูนที่หลากหลายเช่นเคย สีสันและมุมภาพเป็นหนึ่งจุดที่ผลักดันให้หนังเรื่องนี้่จับใจและเพิ่มอารมณ์ร่วมได้เป็นอย่างดี เมื่อมาบวกกับจังหวะการเล่าเรื่องที่สนุกดี กลายเป็นการเพิ่มพูนความมันส์และความสนุกของหนังเรื่องเข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นหนัง 2 ชั่วโมงนิด ๆ ที่ยิ่งดูยิ่งพีคขึ้นเรื่อย ๆ
The Boogeyman เดอะ บูกี้แมน”
นี่อาจจะเป็นหนึ่งในตำนานผีปรำปราของฝั่งอเมริกา ที่เราอาจจะเคยได้ยินได้สัมผัสกับมาบ้าง เพราะที่มันดังได้ก็มาจากเจ้าพ่อนิยายสยอง “สตีเวน คิง” นำมาร้อยเรียงสร้างเป็นเรื่องราวให้ชวนหลอน กลายออกมาเป็น “The Boogeyman” ที่ฉบับนี้อิงมาจากงานเขียนสุดคลาสสิกโดยเฉพาะ ที่จะมาเบิกทางตำนานผีตู้เสื้อผ้าที่ฝรั่งกลัวหนักหนา แต่ความหลอนเฮี้ยน..จะทำได้ถึงขั้นนั้นหรือไม่?นี่คือเรื่องราวของ ซาดี้ ฮาร์เปอร์ นักเรียนหญิงวัยมัธยมปลายและ ซอว์เยอร์
น้องสาวของเธอ ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียแม่อย่างกะทันหัน และไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอจาก วิล พ่อของพวกเขา ที่มีอาชีพเป็นนักจิตวิทยาบำบัด เพราะตัวเขาเองก็ยังคงรับมือกับความเจ็บปวดของตัวเองอยู่ วันหนึ่งมีผู้ป่วยสุดเวทนาโผล่มาที่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วผู้ป่วยคนนั้นก็ได้ทิ้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดสะพรึงที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาตกเป็นเหยื่อของเรื่องลี้ลับ อาจจะบอกได้หนังเรื่องนี้ก็เป็นตามสูตรสำเร็จของจำพวกหนังผีสุดสยอง
ที่ใช้บริการผู้กำกับดาวรุ่งมาชิมลางถ่ายทอดความหลอนแบบเดิม ๆ ที่เราอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว “ร็อบ ซาเวจ” ที่่ผ่านงานกำกับซีรีส์และหนังสยองทุนต่ำมาหลายเรื่อง เขารู้วิธีรับมือกับหนังเรื่องนี้ดี ด้วยการสร้างบรรยากาศชวนหลอนและสะพรึงกลัว อีกทั้งยังสามารถรักษาระดับงบประมาณของหนังเอาไว้ได้อย่างน่าพอใจทีมผู้บริหารเลยแหละไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันหรือไม่ แต่ตลอดระยะเวลาที่นั่งดู The Boogeyman
เรื่องนี้ แอบรู้สึกและนึกถึงรสสัมผัสแบบที่เคยลิ้มลองมาแล้วในหนังดังแจ้งเกิดของผู้กำกับ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก อย่าง “Lights Out” เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่มาในโทนคล้าย ๆ กัน และยังเป็นหนังผีทุนต่ำเหมือนกัน จังหวะและบรรยากาศชวนให้คิดถึงเรื่องนั้น แม้ว่าความน่ากลัวชวนหลอนะยังทำได้ไม่ถึงมาตรฐานแบบที่ผีไฟดับทำได้ก็ตามแต่อย่างน้อย ๆ The Boogeyman ก็ปรับบทและเล่าเรื่องได้ร่วมสมัยได้ดี ก็ไม่วายทิ้งกลิ่นความเป็นนิยายของ สตีเวน คิง
ที่มักจะเป็นประเด็นความเจ็บปวดและดำดิ่งเกี่ยวกับปมปัญหาครอบครัวของวัยรุ่นเข้ามาพัวพัน ถึงจะเป็นพล็อตซ้ำ ๆ ง่าย ๆ ที่เดาทางได้ไม่ยาก ก็ต้องยอมรับว่าหนังสร้างบรรยากาศชวนหลอนได้ดีเหลือเกิน ทั้งที่ผู้ชมจะได้เห็นเจ้าอสุรแค่วับ ๆ แว่บ ๆ ไม่จุใจเท่าไหร่การสร้างบรรยากาศของหนังเรื่องนี้ที่เน้นภาพแสงน้อย เพราะต้องใช้ลูกเล่นกับการจัดแสงและไฟตลอดทั้งเรื่อง จุดนี้เป็นสิ่งที่รู้สึกประทับใจด้วยและก็ทำให้หงุดหงิดตามกันไปพร้อม ๆ กัน
เพราะท่ามกลางความมืดมัวที่หนังพยายามบิ้วท์อารมณ์อยู่นั้น เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ เต็มเรื่อง ถึงจะเป็นจังหวะที่ใช้ได้ แต่บางซีนมันกลับมืดเกินจำเป็น มืดชนิดที่แทบจะมองไม่เห็นรายละเอียดต่าง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบางครั้งด้วยซ้ำแน่นอนว่าหนังสไตล์นี้ มักจะใช้บริการนักแสดงหน้าใหม่และนักแสดงที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าไหร่ และถือว่าหนังเรื่องนี้แคสติ้งนักแสดงมาได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะ “โซฟี แททเชอร์” ที่มีเสน่ห์ในหนังเรื่องนี้มาก กล้องรักเธอ แม้ว่าจะเข้าฉากกับแสงน้อย ๆ
แต่เอกลักษณ์และการแสดงของเธอก็รับหน้ากล้องได้เป็นอย่างดี ถึงจะยังต้องขัดเกลาประสบการณ์แอคติ้งไปอีกหน่อย เชื่อเลยว่าสาวน้อยคนนี้น่าจะมีอนาคตที่ไกลในฮอลลิวูดต่อไปอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “วิเวียน ไลร่า แบลร์” นักแสดงเด็กคนนี้ก็รับบทหนักไม่น้อย ถึงประสบการณ์การแสดงของเธอจะยังไม่ได้มากอะไร แต่เข้ามาเป็นองค์ประกอบเสริมที่เผยแอคติ้งแบบธรรมชาติและไร้เดียงสาในจังหวะที่เหมาะเจาะ ทำให้คนดูเพลินไปกับการไล่ล่าและหนีผีไปกับนักแสดงที่รับบทเป็นสองพี่น้องคู่ได้เป็นอย่างดี
รีวิวซีรีส์ “Fubar” นี่สิซีรีส์ ‘คนเหล็ก
ผ่านิวจัดการ ปี 1994 เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ได้กลับมาร่วมงานกับ อาร์โนลด์ ชวาร์ซเซเนกเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) ที่เคยกอดคอกันสร้างตำนาน ‘คนเหล็ก’ จาก ‘The Terminator’ แล้วก็ ‘Terminator 2: Judgement Day’ สู่ ‘True Lies’ หรือชื่อภาษาไทย ‘คนเหล็กผ่านิวสะสาง’ ที่ว่าด้วยสายชายหนุ่มล่ำที่ปกปิดตัวตนการเป็น CIA จากเมียที่รักกระทั่งเกิดเหตุวายป่วงตามมา
สำหรับปี 2023 นี้คาเมรอนเองก็ได้ได้โอกาสนำหนังเรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วมาปัดฝุ่นสร้างเป็นซีรีส์รวมทั้งนั่งแท่นอำนวยการสร้างบริหาร ส่วนชวาร์ซเซเนกเกอร์ขอมาเริ่มต้นใหม่กับพลอตเรื่องที่รู้จักกับ ‘Fubar’ ซีรีส์แอ็กชูหัวมเมดี้ที่ราวกับเอา ‘คนเหล็กผ่านิวสะสาง’ มายำใหญ่ใส่สารพันจนกระทั่งสนุกสนานหนำใจไม่แพ้หนังในตำนานเลย‘Fubar’ เล่าของข้าราชการลูค บรูนเนอร์ (สวมบทบาทโดยชวาร์ซเซเนกเกอร์) CIA
ที่ดำเนินชีวิตสองด้านโดยมีบริษัทขายเครื่องไม้เครื่องมือฟิตเนสเป็นฉากบังหน้าเขากับครอบครัว แม้กระนั้นเมื่อเรื่องจริงเผยออกมาว่า เอ็มมา (สวมบทบาทโดย โมนิกา บาร์บาโร, Monica Barbaro) บุตรสาวสุดงามดันแอบเป็นข้าราชการภาคสนาม CIA งานนี้บิดากับลูกเลยจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดโบโร โพโลเนีย (รับบทบาทโดยเอ็งเบรียล ลูทุ่งนา, Gabriel Luna) พ่อค้าอาวุธปรมาณูที่ราวกับเป็นลูกชายบุญธรรมของบรูนเนอร์ แล้วก็ยังจะต้องปกปิดชีวิตสายจากครอบครัวรวมทั้งแฟนโดยไม่ฆ่าคุ้นเคยตายซะก่อน
อย่างที่พวกเราได้จั่วหัวไว้เลยนะครับนี่เป็นซีรีส์ ‘คนเหล็กผ่านิวจัดการ’ ชัดๆเลยเพราะว่านอกเหนือจากจะแสดงนำโดย ‘คนเหล็ก’ อย่างชวาร์ซเซเนกเกอร์แล้ว มันยังเกี่ยวโยงกับพ่อค้าปรมาณูในพลอตที่ก็ดันเสมือนเอา ‘True Lies’ มาเขย่าทายาบ้าเพิ่มมุกห่ามฮาใต้สะดือผสมๆกับโรแมนซ์เบาๆจนได้ซีรีส์ที่มากกว่าครบรสแล้วก็บันเทิงใจเกินเบอร์ (ดีไม่ดีบันเทิงใจกว่า ‘True Lies’ ที่พะแบรนด์ของจริงเสียอีก)
ถึงจะชูความคล้ายคลึงหรือเทียบเคียงอะไรหลายชนิดแล้วทำให้ ‘Fubar’ ใกล้เคียงกับหนังดังจากที่พวกเรากล่าวมา แม้กระนั้นอย่างหนึ่งที่จะต้องชื่มดูเลยเป็นการเขียนบทซีรีส์ที่รู้ใจผู้ชมว่าต้องการมองเห็นอะไร ไม่ใช่แค่เอาอกเอาใจแฟนหนังของชวาร์ซเซเนกเกอร์แม้กระนั้นถ้าหากเทียบเคียงกล้วยๆว่าบนโซฟาหน้าโทรทัศน์ที่เปิด Netflix อยู่มีทั้งยังคุณลุง 50-60 อัป มีเด็กเจนวายในวัย 30+ หรือมีหญิงสาวในเจนใกล้เคียงกัน
ซีรีส์สามารถเอนเตอร์เทนได้ถ้วนหน้าแบบไม่พึ่งผลประโยชน์เมืองเลยนะครับ moviehdfree net ด้วยการผลิตค้างแรกเตอร์ที่มีชีวิตชีวาเกือบทุกตัวทั้งยังลูคของชวาร์ซเซเนกเกอร์ที่เสมือนดารานำชายคนเหล็กผ่านิวจัดการในวัยใกล้ปลดเกษียณอายุที่จำต้องมาประจันหน้ากับบุตรสาวสุดห้าวที่บาร์บาโรเองก็ทำให้มองเห็นแล้วว่าจากบท ‘นางผ่าน’ ใน ‘Top Guns: Maverick’ คุณมีฝีมือมากยิ่งกว่าเพียงแค่ความสวยสดงดงามหวานหน้าดูเพียงอย่างเดียว ซึ่งเคมีบิดาลูกของทั้งสองเป็นวัตถุดิบหลักเลยที่ทำให้ซีรีส์ออกมารื่นเริงกลมกล่อมละมุนละไมรวมทั้งน่าประทับใจมากมาย
มาว่ากันถึงความโรแมนติกในส่วนของบาร์บาโรเองก็มีทั้งยังส่วนของความโรแมนติกกับเจย์ บารูเชล (Jay Baruchel) กับบทคาร์เตอร์ชายหนุ่มจืดชืดที่ราวกับเป็นที่ป้องกันภัยของเอ็มมา รวมทั้งยังมีเรื่องมีราวราวกิ๊กกั๊กจั๊กกะจี๋หัวใจกับนักแสดงอัลดอน ชายหนุ่มหล่อล่ำสุดฮอตสวมบทโดย ทราวิส แวน วิงเคิล (Travis Van Winkle) ที่คงจะชอบใจบรรดาผู้หญิงเยอะมากๆ
ด้านชวาร์ซเซเนกเกอร์ ก็พอได้เพราะเหตุว่าเสมือนความโรแมนติก เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ เต็มเรื่อง จะเป็นศูนย์กลางของซีรีส์พวกเราเลยได้มองเห็น ลูค ตามขอคืนดีอดีตกาลเมียคนงามอย่าง ทัลลี (เล่นบทโดย ฟาเบรียทุ่งนา อูเดนีโอ, Fabiana Udenio) ด้วยสารพันเคล็ดวิธีจนกระทั่งทำให้ผู้ชมได้ยิ้มกริ่มไปตลอดทั้งเรื่องและก็ยังมีคนรักสายเนิร์ดระหว่าง กางรี (รับบทบาทโดย ไม่ลาน คาร์เตอร์, Milan Carter) กี๊คประจำกลุ่ม CIA กับ ทีน่า (สวมบทบาทโดย อพาร์ที่นา บรีล, Aparna Brielle) ข้าราชการ NSA สุดน่ารักน่าเอ็นดูที่อีกทั้งฮาอีกทั้งหวานจนกระทั่งสนุกสนานพอได้